เศรษฐกิจโลกกําลังรับมือกับการเปลี่ยนแปลงมากมายในหลายประเทศตั้งแต่ช่วงที่มีการระบาดใหญ่ของโควิด 19 ธุรกิจของไทยเองก็ก้าวเข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซอย่างเต็มที่และกลายเป็นกระแสหลักสําหรับคนไทย แพลตฟอร์มการช็อปปิ้งออนไลน์เช่น Shopee, Lazada, Facebook Shopping, JD Central และ Alibaba ได้กลายเป็นสูญกลางด้านการซื้อขาย ผู้ค้าปลีกจํานวนมากต้องนําแนวคิดนี้มาใช้เพื่อดําเนินธุรกิจต่อไป
มาเจาะลึกข้อมูลที่อาจช่วยให้คุณเข้าใจแนวโน้มอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยได้อย่างตรงจุดไปพร้อม ๆ กัน!
พฤติกรรมการช้อปสินค้าออนไลน์เปลี่ยนไป
นับตั้งแต่ช่วงก่อนผู้บริโภคมียอดการใช้งานอินเตอร์เน็ตที่พุ่งสูงขึ้นเนื่องจากนโยบายล็อกดาวน์ที่รัฐบาลทั่วโลกนำมาใช้ช่วงภาวะวิกฤติ ตัวเลขที่มีผลต่อวงการอีคอมเมิร์ซก็สูงขึ้นในระดับโลกเช่นกันในช่วง 3 ปีต่อมา
จากข้อมูลเชิงลึกของ Statista ยอดขายอีคอมเมิร์ซค้าปลีกคาดว่าจะสูงกว่า 4.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลกในปี 2024 ในขณะที่ตัวเลขนี้คาดว่าจะสูงถึง 6.56 ล้านล้านในปี 2025 สําหรับประเทศไทยนั้น คุณธนาวัฒน์ มาลาบุปผา ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์ priceza.com เผยว่าลูกค้าประสบความสําเร็จในการสร้างรายได้ที่ 1.1 ล้านล้านบาทและช่องทางการช็อปปิ้งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่ผู้บริโภคชาวไทยในปีที่ผ่านมาคือ Shopee (75%), Lazada (67%) และ TikTok (51%)
โดยสรุปคือเราสามารถประมาณการการซื้อสินค้าออนไลน์ว่าอาจเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่องในอีก 2 หรือ 3 ปีข้างหน้าอย่างไม่ต้องกังวล

ประเภทสินค้าที่น่าสนใจบนอีคอมเมิร์ซ
ก่อนภาวะโรคระบาดจะทวีความรุนแรง ประเภทสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดผ่านช่องทางออนไลน์คือท่องเที่ยวและที่พัก ด้วยยอดการซื้อขายกว่าเกือบสองแสนล้านบาทในปี 2019 และสินค้าที่เติบโตเร็วที่สุดคืออาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคที่ +22%
นโยบายการปิดประเทศและปิดน่านฟ้าทั่วโลกส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวมียอดการซื้อขายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซที่ลดลงถึง -92% ในขณะที่เครื่องใช้ภายในบ้านและอุปกรณ์ DIY กลับได้อานิสงส์กว่า +120% อีกทั้งสินค้าที่เกี่ยวกับอาหารและการดูแลสุขภาพมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดที่ +41% เนื่องจากผู้คนในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะอยู่ติดบ้านและใส่ใจในเรื่องของการดูแลสุขภาพมากขึ้น

เข้าสู่สังคมไร้เงินสด
เนื่องจากเทคโนโลยีการชำระเงินแบบดิจิทัลยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นักช้อปชาวไทยจึงปรับตัวเข้าสู่การเป็นสังคมไร้เงินสดกันมากขึ้น โดย Bangkok Post รายงานว่าประเทศไทยอยู่อันดับที่ 3 ในภูมิภาคที่พกเงินสดน้อยลง โดยมีเพียง 47% ของประชากรจากกลุ่มสำรวจเท่านั้นที่พกเงินสด ผลการสำรวจยังเผยให้เห็นอีกว่าประเทศไทยเป็นผู้นำในภูมิภาคด้านการใช้งานแอปธนาคารบนมือถือ โดยใช้มากถึง 97% และมีค่าเฉลี่ยนการใช้แอปพลิเคชันธนาคารบนมือถือเพื่อการใช้จ่ายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
ปัจจัยนี้อาจส่งผลต่อทั้งธุรกิจออนไลน์และร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม นักการตลาดควรอำนวยความสะดวกผู้บริโภคโดยการทำให้การจ่ายเงินรูปแบบดิจิทัลง่ายและสะดวกต่อการใช้งาน

อนาคตของอีคอมเมิร์ซในเมืองไทยจะเป็นอย่างไร?
จากที่ยักษ์ใหญ่ของวงการอีคอมเมิร์ซในไทยอย่าง Lazada ได้คาดการณ์ไว้ ออนไลน์ช้อปปิ้งจะมีอิทธิพลกว่าที่เป็นอยู่ เราจะซื้อของออนไลน์ไม่ใช้เพราะต้องหาบางอย่างที่มีขายผ่านทางออนไลน์เท่านั้น แต่เราจะซื้อของออนไลน์เพราะเราซื้อง่ายได้ด้วยปลายนิ้ว
นักการตลาดต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับตลาดอีคอมเมิร์ซที่กำลังเติบโตอย่างสม่ำเสมอ และช่วยอำนวยความสะดวกผู้ใช้ที่กำลังเริ่มใช้ชีวิตแบบไร้เงินสดในชีวิตประจำวัน ช่วงขณะนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของโลกใบใหม่ที่เราทุกคนต้องอยู่ต่อไป และอนาคตก็เอาแน่เอานอนไม่ได้เสียทีเดียว เตรียมตัวเองให้พร้อมไว้เสมอ
คำถามที่พบบ่อย
อีคอมเมิร์ซคืออะไรกันแน่?
อีคอมเมิร์ซคือการซื้อและขายสินค้าหรือบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต รวมถึงการโอนเงินและข้อมูลเพื่อทำธุรกรรมให้เสร็จสิ้น เรียกอีกอย่างว่าการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์หรือการค้าทางอินเทอร์เน็ต
อีคอมเมิร์ซมีกี่ประเภท?
อีคอมเมิร์ซ 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ธุรกิจกับธุรกิจ (เช่น Shopify) ธุรกิจกับผู้บริโภค (เช่น Amazon) และผู้บริโภคกับผู้บริโภค (เช่น eBay)
บริษัทอีคอมเมิร์ซรายใดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 1994 Amazon ได้กลายเป็นชื่อที่คุ้นเคยเมื่อพูดถึงการช็อปปิ้งออนไลน์ ปัจจุบันบริษัทมีรายได้มากที่สุดในโลก
ทำไมอีคอมเมิร์ซถึงประสบความสำเร็จ?
ลูกค้าจะได้รับข้อมูลอัปเดตแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ข้อเสนอสุดพิเศษและแผนการส่งเสริมการขาย รวมถึงตัวเลือกการซื้อแบบกดครั้งเดียว ซึ่งทำให้การค้าออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างมาก เป็นไปได้ที่จะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับธุรกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นด้วยข้อเสนอเฉพาะสถานที่ตั้งของอุปกรณ์เคลื่อนที่
อนาคตของอีคอมเมิร์ซคืออะไร?
อีคอมเมิร์ซจะเฟื่องฟูต่อไปทั่วโลก โดยคาดว่าจะมีมูลค่ามากกว่า 6.5 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2566 ภายในปี 2564 มีการคาดการณ์ว่าผู้ซื้อประมาณ 2.1 พันล้านคนจะซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์ และที่น่าสนใจคือ นักช็อปออนไลน์จำนวนมากอาศัยอยู่นอกสหรัฐอเมริกา
เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซทำเงินได้อย่างไร?
อีกวิธีหนึ่งที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซสร้างรายได้ที่สำคัญต่อการเติบโตในระยะยาวของพวกเขาคือผ่านโฆษณาที่ตรงเป้าหมายซึ่งมุ่งสู่ลูกค้าและช่องที่ทำกำไรได้ตั้งแต่เริ่มต้น การใช้โฆษณาเฉพาะผลิตภัณฑ์ช่วยให้บริษัทอีคอมเมิร์ซเติบโต โฆษณารีมาร์เก็ตติ้งยังทำหน้าที่เป็นตัวเร่งให้เกิดโมเมนตัมการเติบโตอีกด้วย
ต้องการตัวช่วยออกแบบกลยุทธ์อีคอมเมิร์ซงั้นหรือ?
หากแบรนด์ของคุณต้องการตัวช่วยทางการตลาดเพื่อรักษาสเถียรภาพทางธุรกิจในตลาดอีคอมเมิร์ซที่มรการแข่งขันสูงขึ้นทุกวัน ทีม Sphere Agency พร้อมช่วยคุณออกแบบเว็บไซต์ออนไลน์ช้อปปิ้งที่ดีที่สุดสำหรับคุณ พร้อมบริการอื่น ๆ อีกหลากหลาย ติดต่อเราเลย