คนทำธุรกิจออนไลน์ส่วนใหญ่น่าจะทราบกันดีว่าการทำโฆษณามีบทบาทสำคัญในการดึงดูดกลุ่มลูกค้ามายังเว็บไซต์ของแบรนด์ ทีนี้พอลูกค้ามาเจอเว็บไซต์ของคุณแล้วใช่ไหม แต่ถ้าพวกเขายังไม่พร้อมที่จะซื้อล่ะ คนเหล่านี้ที่ออกจากเว็บไซต์ไปแล้วจะไปอยู่ไหนล่ะ?
อันที่จริงมีการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนั้นด้วย โดย 97% ของผู้เข้าชมเว็บไซต์ครั้งแรกออกจากเว็บไซต์โดยไม่ได้ซื้อสินค้าอะไรเลย ลูกค้าเหล่านี้จะกลับไปมือเปล่า เว้นแต่ว่าคุณจะจูงมือพาพวกเขากลับมาซื้อใหม่ได้ และสิ่งที่ Retargeting Ads เข้ามาตอบโจทย์
Retargeting Ads คืออะไร?
Retargeting Ads ช่วยในการย้ำเตือนถึงแบรนด์ของคุณหลังจากที่ผู้เข้าชมออกจากเว็บไซต์ของคุณโดยไม่เกิด Conversion ซึ่งในกรณีนี้คือการซื้อสินค้าหรือจองโต๊ะเป็นต้น เมื่อผู้เข้าชมของคุณเข้าสู่หน้าใดหน้าหนึ่ง คุณสามารถยิงโฆษณาของทางแบรนด์ใส่พวกเขาเวลาอยู่ในเว็บไซต์อื่นได้
Google Ads, Facebook Retargeting, LinkedIn Ads และแพลตฟอร์มโฆษณา Retargeting Ads อื่น ๆ สามารถช่วยคุณสร้าง Retargeting Campaigns เพื่อให้ผู้เข้าชมของคุณระลึกได้ว่าแบรนด์ของคุณเจ๋งแค่ไหน การกำหนดเป้าหมายใหม่เป็นเครื่องมือที่นักการตลาดตัวจริงใช้เพื่อเพิ่มยอดขาย เพิ่มอัตรา Conversion Rate และสร้าง Customer Loyalty
Retargeting ทำงานอย่างไร?
วิธีหนึ่งในการทำ Retargeting คือการใช้แพลตฟอร์มโฆษณา เช่น Google Display Network ซึ่งแสดงโฆษณาแบบดิสเพลย์ไปยังเบราว์เซอร์ของผู้คนในเว็บไซต์นับล้าน เมื่อผู้เยี่ยมชมออกจากเว็บไซต์ของคุณ พวกเขาจะเริ่มเห็นโฆษณาของคุณในขณะที่อ่านบล็อก ฟังเพลง หรือซื้อของในร้านค้าออนไลน์ที่อื่น ๆ บนอินเทอร์เน็ต โฆษณาของคุณจะทำให้จดจำสิ่งดี ๆ ที่แบรนด์คุณพร้อมมอบ และจะพาพวกเขากลับมาที่เว็บไซต์ของคุณเมื่อพร้อมสำหรับการตัดสินใจซื้อในที่สุด
คุณสามารถตั้งค่าโฆษณากระตุ้นยอดขายเป็นแบบอัตโนมัติได้ ในขณะที่คุณโฟกัสไปที่งานอื่น ๆ ที่สำคัญกว่า การรวบรวมกลุ่มเป้าหมายสำหรับ Retargeting List อาจมีสองประเภทคือ Pixel-based กับ List-based Retargeting
Pixel-based Retargeting ทำให้คุณสามารถยิงโฆษณาไปยังผู้ที่เคยดูเว็บไซต์หรือคลิกเข้าไปยังหน้า Landing Page ของคุณ ในขณะที่ List-based Retargeting ทำงานหลังจากที่คุณมีข้อมูลติดต่อของลูกค้าในฐานข้อมูลของคุณแล้ว หรือใช้ที่อยู่อีเมลที่ลูกค้าปัจจุบันของคุณให้ไว้เพื่อแสดงโฆษณาสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น
รูปแบบ Retargeting Ads
1. Cross-Channel
Cross-channel Retargeting ทำให้คุณสามารถแสดงโฆษณาข้ามแพลตฟอร์มและนำเสนอเนื้อหาที่เฉพาะเจาะจงสำหรับช่องทางนั้น ๆ ได้ การใช้โฆษณาเฉพาะแพลตฟอร์มเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญของคุณ เนื่องจากผู้ใช้มักจะมีปฏิสัมพันธ์กับเนื้อหาบางประเภท โดยขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่พวกเขาใช้ ด้วยการแสดงโฆษณาหลายประเภทในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่กลุ่มเป้าหมายของคุณใช้ จะสามารถเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเปิดโอกาสให้เกิด Conversion มากขึ้นด้วย
2. Email
Email Retargeting Ads ช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เคยเปิดอีเมลจากแบรนด์คุณ ซึ่งสามารถเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญอีเมลของคุณ ในการตั้งค่า Email Retargeting คุณต้องเพิ่มชุดโค้ดลงในลายเซ็นอีเมลหรือ HTML ซึ่งจะทำให้คุณสามารถค้นหา สร้างการมีส่วนร่วม และแปลงลีดที่มีอยู่ให้กลายเป็นลูกค้าในที่สุด สามารถใช้เพื่อเพิ่มจำนวนการซื้อของลูกค้าที่มีอยู่
3. Dynamic
Dynamic Retargeting Ads จะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้ใช้ที่เว็บไซต์ และแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องมากที่สุดตามการกระทำของผู้ใช้ คุณสามารถส่งเสริมให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์กลับมาซื้ออีกครั้งโดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาเคยดูบนไซต์ของคุณในโฆษณาแบบไดนามิก
ในการตั้งค่าบน Facebook คุณจะต้องติดตั้ง Facebook Pixel บนหน้าเว็บไซต์ของคุณทั้งหมด ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถดูว่าใครเข้ามาในเว็บไซต์ของคุณบ้าง พวกเขาใช้งานเว็บไซต์ของคุณอย่างไร และการกระทำของพวกเขาเป็นอย่างไร สามารถใช้วัดอัตรา Conversion จากหลายอุปกรณ์ สร้าง Custom Website Audiences และเริ่มทำโฆษณาแบบไดนามิก
ทำไมต้องทำ Retargeting Ads?
ก่อนที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ สิ่งสำคัญคือต้องทำให้พวกเขารู้สึกว่ารู้จักคุณดีพอ เพื่อช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ กฎพื้นฐานทางการตลาดบอกว่าลูกค้าควรได้เห็นสารโฆษณาของคุณอย่างน้อย 7 ครั้ง Retargeting จะเพิ่มการมองเห็นสำหรับแบรนด์ของคุณโดยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แสดงความสนใจในผลิตภัณฑ์ของคุณอยู่แล้วได้มากยิ่งขึ้น
การทำ Retargeting เป็นวิธีที่ประหยัดต้นทุนมากกว่าในบรรดาวิธีการโฆษณาหลาย ๆ อย่าง สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าโฆษณาจะแสดงในที่ที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสม
ควรทำ Retargeting เมื่อไร?
Retargeting เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดระยะยาวที่จะได้ผลกับธุรกิจที่มีผู้ติดตามอยู่บ้างแล้ว และจะดีที่สุดหากมีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณอย่างน้อย 100 คนต่อเดือน
คุณสามารถแสดงสินค้าขายดีของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยโฆษณา Retargeting การโปรโมตสินค้าที่เป็นที่ต้องการของลูกค้าปัจจุบันสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาของคุณได้
กลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมสำหรับคอลเลคชันผลิตภัณฑ์ใหม่คือลูกค้าที่สนใจแบรนด์ของคุณอยู่แล้ว โฆษณา Retargeting ของคุณจะดึงดูดความสนใจไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่ใด และปูเส้นทางที่ชัดเจนในการดึงกลับมายังร้านค้าของคุณใหม่อีกครั้ง เพื่อให้พวกเขาเห็นว่ามีสินค้าอะไรใหม่เข้ามาบ้าง โดยสามารถทำได้ผ่าน Facebook, Google หรือแพลตฟอร์มโฆษณาอื่น ๆ
ในฐานะผู้ค้าบนโลกออนไลน์ คุณอาจจะต้องจัดการกับสินค้าค้างสต็อกไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง โฆษณา Retargeting สามารถแสดงสินค้าส่วนเกินให้กับลูกค้าโดยใช้งบประมาณน้อยลงและไม่ต้องลงทุนลงแรงเยอะ
Retargeting Ads ทำให้แบรนด์เป็นที่หนึ่งในใจของลูกค้าที่ยังไม่พร้อมที่จะซื้อ แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะไม่สนใจซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณในครั้งแรกก็ตาม
คำถามที่พบบ่อย
Retargeting มีประสิทธิภาพแค่ไหน?
อัตราการมีส่วนร่วมกับโฆษณาสามารถเพิ่มได้ถึง 400% โดยการทำรีทาร์เก็ตติ้งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าโฆษณาประเภทนี้มี Click-through Rate (CTR) เฉลี่ยสูงกว่าโฆษณาแบบดิสเพลย์ถึง 0.7%
เราสามารถ Retargeting เดี่ยว ๆ ได้หรือไม่?
การทำรีทาร์เก็ตติ้งจะช่วยในการขับเคลื่อน Conversion อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมันเน้นเจาะจงไปที่คนที่แสดงความสนใจในผลิตภัณฑ์อยู่แล้ว แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอด้วยตัวมันเอง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด Retargeting ต้องรวมเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งที่ครบวงจร
Remarketing กับ Retargeting ต่างกันอย่างไร?
รีทาร์เก็ตติ้งมักใช้โฆษณาแบบ Paid Advertising เพื่อดึงผู้เยี่ยมชมมาที่เว็บไซต์และโปรไฟล์ของคุณอีกครั้ง ในทางกลับกัน Remarketing มักใช้ Email Marketing เป็นหลักเพื่อดึงดูดรายชื่อลูกค้าที่เคยทำธุรกิจกับแบรนด์ของคุณให้กลับมาอีกครั้ง
Retargeting Pixels คืออะไร?
Retargeting Pixel คือชุดโค้ดบนเว็บไซต์ที่ใช้ในการระบุว่าใครเข้าเยี่ยมชมแต่ละหน้าในเว็บไซต์นั้น
Facebook Retargeting ทำงานอย่างไร?
Facebook Retargeting เป็นกลยุทธ์ PPC ที่คุณแสดงโฆษณาให้กับคนที่คุ้นเคยกับแบรนด์ของคุณอยู่แล้ว พวกเขาอาจเคยเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์หรือโต้ตอบโปรไฟล์ Facebook หรือ Instagram ของคุณ พูดง่าย ๆ ก็คือ Retargeting จะแสดงโฆษณาของคุณต่อผู้ที่รู้จักคุณอยู่แล้ว
Google Remarketing ทำงานอย่างไร?
Google Remarketing เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ Google Ads ของคุณติดตามทุกความเคลื่อนไหวของลูกค้าในโลกอินเทอร์เน็ต จากนั้น เมื่อพวกเขาเยี่ยมชมเว็บไซต์อื่นที่ใช้เครือข่าย Google Ad Network พวกเขาก็จะเห็นโฆษณาของคุณ Google ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งว่าใครจะเห็นโฆษณารีมาร์เก็ตติ้งของคุณบ้าง
ต้องการให้เราช่วยดึงลูกค้ากลับมาซื้อของของคุณไหม?
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ทนเห็นลูกค้าจากไปโดยไม่ซื้ออะไรเลยไม่ได้ ทีมงานของเราที่ Sphere Agency พร้อมช่วยคุณวางแผนแคมเปญรีทาร์เก็ตติ้งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายของคุณระลึกได้ว่าคุณเจ๋งแค่ไหน ดูรายละเอียดบริการการตลาดดิจิทัลของเราและติดต่อเราวันนี้