การขายของออนไลน์กลายเป็นหนทางทำมาหากินหลักของนักธุรกิจทั้งรายใหญ่และ SME ในบ้านเราไปแล้ว แม้แต่องค์กรใหญ่ระดับโลกส่วนมากก็หันมาขายสินค้าและบริการผ่านช่องทาง eCommerce หรือ Social Platform อย่าง Amazon, eBay, Alibaba หรือ Facebook Shops เป็นต้น ซึ่งหนึ่งใน eCommerce Platform ที่คนไทยนิยมที่สุดเห็นจะไม่พ้น 'ลาซาด้า'

ลาซาด้าเป็น eCommerce Platform ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 2 ในประเทศไทย และมีฐานผู้ใช้ที่แข็งแกร่งในย่าน Southeast Asia อีกด้วย ซึ่งลาซาด้าให้สิทธิประโยชน์กับนักช้อปมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคูปองส่งฟรี ส่วนลดจัดเต็ม โปรโมชั่น Cashback ต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม การสมัครเข้ามาขายของใน Lazada Marketplace หรือ LazMall ต้องมีความมุ่งมั่นและตั้งใจในระดับหนึ่งเลยทีเดียว

คุณอาจจะเริ่มสงสัยว่า แล้วการเข้ามาขายของออนไลน์บนลาซาด้านั้นมีข้อดีอย่างไร มาหาคำตอบกันครับ

มารู้จักกับลาซาด้ากันก่อน

ลาซาด้าก่อตั้งโดย Maximilian Bittner พร้อม ๆ กับ Rocket Internet โดยในช่วงแรกปี 2012-2013 ลาซาด้าใช้วิธีระดมเงินทุนจากนักลงทุนรายใหญ่ อย่างเช่นผู้ให้บริการด้านธนาคารและการเงินอย่าง JP Morgan ก็เป็นหนึ่งในนักลงทุนเหล่านั้น

ลาซาด้าได้เริ่มเปิด Marketplace ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2014 ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยในช่วงแรกก็ต้องพบกับอุปสรรคและขาดทุนไปมากมาย แต่ก็พลิกเกมกลับมาได้ในตอนท้าย

สาเหตุที่พวกเขาขาดทุนเป็นเพราะว่าในเวลานั้นคนสิงคโปร์ยังนิยมช้อปปิ้งตามหน้าร้าน รวมถึงยังมีคนอีกมากที่ไม่ได้ถือบัตรเครดิตหรือเดบิต ทำให้ลาซาด้าไม่สามารถต่อกรกับคู่แข่งรายใหญ่อย่าง Amazon ได้

ปี 2016 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของลาซาด้า เมื่อ Alibaba เจ้าแห่ง eCommerce จากจีนแแแผ่นดินใหญ่ได้ตัดสินใจเข้ามามีบทบาทในการจัดการและสนับสนุนด้านทุนทรัพย์ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ลาซาด้าเข้าถึงแพลตฟอร์มการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาจาก Alibaba อีกด้วย

ปัจจุบันลาซาด้ามีผู้ค้าในย่าน Southeast Asia กว่า 155,000 ราย และมากกว่า 3,000 แบรนด์ที่เข้ามาทำธุรกิจบนแพลตฟอร์มและได้ตำแหน่งผู้นำด้าน eCommerce ในภูมิภาคนี้ไปครอง ณ ปัจจุบันมีสินค้าในระบบกว่า 300 ล้านชิ้น และได้ชื่อเป็นตัวเต็งด้านความหลากหลายของสินค้าอีกด้วย

ด้วยฐานความนิยมในกว่า 6 ประเทศทั่วภูมิภาค ลาซาด้าสามารถเชื่อมกลุ่มคนที่แตกต่างและหลากหลายเข้าด้วยกันผ่านเทคโนโลยี การขนส่ง และความสะดวกในการซื้อขาย ลาซาด้ามีแนวโน้มที่จะเติบโตจนมีลูกค้าถึง 300 ล้านคนภายในปี 2030

แนวโน้มวงการ Online Shopping ในไทยเป็นอย่างไรบ้าง?

ธุรกิจ eCommerce และ Social Commerce ในไทยกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ในปี 2017 ปีเดียว ผู้บริโภคชาวไทยใช้จ่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ไปกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเกือบ 2 เท่าของปี 2016 และในปีนี้เรายังคาดหวังว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นไปอีก ภายในสิ้นปี 2022 จะมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตถึง 54.50 ล้านคนในประเทศไทย และในจำนวนนี้คาดเดาว่าจะใช้บริการช้อปปิ้งออนไลน์ถึงเกือบครึ่งหนึ่ง ฉะนั้น หากคุณกำลังวางแผนจะเข้ามาขายของผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างลาซาด้า เวลานี้เป็นช่วงที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว

นอกจากนี้ บริษัทใหญ่ต่าง ๆ ก็เริ่มเข้ามาขายสินค้าและบริการบน Lazada App กันอย่างมากหน้าหลายตา ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เทคโนโลยีอย่าง Samsung, LG, Asus, Acer, HP, Dell, Lenovo, Toshiba, Fujifilm, Canon, Nikon, Olympus, Panasonic, Sony, Microsoft, Intel, AMD, Qualcomm, Garmin, Bose, Philips, Apple, Amazon, eBay, Rakuten, Alibaba Group, JD.com, Haier, TCL Communication, Xiaomi, Oppo, Vivo หรือ OnePlus เป็นต้น

อ่านต่อได้ในบทความ 3 เทรนด์ 'อีคอมเมิร์ซ’ เมืองไทยในชีวิต New Normal

ธุรกิจย่อยของลาซาด้า

Lazada Marketplace

Marketplace เปิดตัวเมื่อปี 2013 ทำหน้าที่เชื่อมต่อผู้ค้าเข้ากับลูกค้าใหม่อีกหลายล้านคน พร้อมมอบบริการต่าง ๆ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อขาย ไม่ว่าจะเป็นบริการลูกค้าสัมพันธ์ เครื่องมือทางการตลาดและสื่อสารทาง Social Media ไปจนถึงเครือข่ายโลจิสติกส์กว้างขวาง ผู้ค้าสามารถขายสินค้าได้อย่างกว้างขวางในกว่า 18 ประเภทสินค้าหลัก โดยหมวดสุขภาพความงามและแฟชั่นเติบโตรวดเร็วที่สุด รวมไปถึงหมวดของตกแต่งภายในบ้าน แม่และเด็ก เทคโนโลยีสื่อสาร เครื่องใช้ในครัวเรือน และอีกมากมาย

LazMall

LazMall E-Marketplace คือห้างสรรพสินค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค เปิดตัวในปี 2018 LazMall เชื่อมต่อนักช้อปเข้ากับกว่า 18,000 แบรนด์ดัง รับประกันสินค้าแท้ 100% การันตีส่งเร็ว ส่งไว และขอคืนสินค้าได้ภายใน 15 วัน LazMall เป็นส่วนที่แบรนด์ใหญ่ ๆ สามารถเข้าถึงลูกค้า และสร้างประสบการณ์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับแต่ละคนโดยตรงได้ด้วย

Cross-Border

พันธกิจของ Cross-border คือการเปิดประตูให้แบรนด์จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าถึงตลาดในภูมิภาคอื่นได้ นำเสนอผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิดบนช่องทาง Global Collection Channel สินค้าที่สั่งซื้อจะถูกส่งภายใน 7 วันนับตั้งแต่ทำรายการเสร็จ หนุนหลังโดยโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีของอาลีบาบาและเครือข่ายโลจิสติกส์ที่ไม่มีใครเทียบได้

ขายของออนไลน์บนลาซาด้ามีประโยชน์อย่างไร?

มีข้อดีหลายอย่างในการสมัครเข้ามาขายของออนไลน์ผ่านลาซาด้า และนี่คือข้อดีส่วนหนึ่ง:

1) เข้าถึงลูกค้าได้หลายล้านคนในคลิกเดียว

จากผลสำรวจ DIGITAL 2023: THAILAND Report Hootsuite ระบุว่ากว่า 66.8% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตช่วงอายุ 16 - 64 ปีเคยซื้อสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจเมื่อเทียบกับสัดส่วนประชากรทั้งหมด

2) เรียนรู้การขายของออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพที่ Lazada University

คนที่เพิ่งเริ่มขายของออนไลน์ใหม่ ๆ สามารถเข้าถึงทรัพยากรต่าง ๆ ของ Lazada University เพื่อเทิร์นโปรเป็นแม่ค้าออนไลน์ตัวจี๊ดได้ และยังมี Service Marketplace ที่ผู้ค้าสามารถหา Outsource เพื่อช่วยในการขายของออนไลน์ เช่น การออกแบบหน้าร้านหรือสร้างแบนเนอร์แคมเปญ เป็นต้น

3) ขายของออนไลน์ง่าย ๆ ด้วย Mobile App

นักช้อปออนไลน์ส่วนมากคุ้นเคยดีกับการซื้อของผ่านแอปบนมือถือ และผู้ค้าบนลาซาด้าเองก็สามารถขายสินค้าหรือบริการบน Lazada Seller Center App ได้เช่นกัน ซึ่งหลาย ๆ คนก็บอกว่าบางทีแอปนี้ก็ใช้งานสะดวกกว่าหน้าเว็บลาซาด้าด้วยซ้ำ

คุณสามารถลงรายการผลิตภัณฑ์ของคุณได้ด้วยแอปบนโทรศัพท์ของคุณ อย่างไรก็ตาม คุณจะต้องใช้คอมพิวเตอร์และปริ้นเตอร์เพื่อพิมพ์ใบตราส่งสินค้าระหว่างดำเนินการตามคำสั่งซื้อ

ในส่วนของการทำ Digital Marketing ในร้านค้าของคุณ แอปนี้ให้คุณสร้างบัตรกำนัลและเข้าร่วมโปรโมชั่นได้โดยตรงจากแอปเลย

4) รับเงินง่ายและเร็วกว่าเคย

ผู้ค้ารับเงินภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากผู้ซื้อทำรายการสำเร็จ เงินส่วนนี้จะถูกโอนเข้าบัญชีโดยตรงโดยไม่หักค่าธรรมเนียมจากฝั่งลาซาด้า มีบริการรับโอนเงินข้ามประเทศฟรี และยังให้ Cashback กับผู้ซื้อทันทีที่ทำรายการอีกด้วย

5) จัดการสต็อกสินค้าง่าย

ด้วยระบบ Inventory Management System คุณไม่ต้องกังวลเรื่องสินค้าหมดสต็อกอีกต่อไป ระบบจะอัปเดตข้อมูลสินค้าในคลังโดยอัตโนมัติทุก ๆ วัน โดยอิงจากข้อมูลแบบ Real-time จากฝั่งลาซาด้า ด้วยระบบ IMS คุณสามารถติดตามผลการประกอบการ ติดตามฟีดแบ็คจากลูกค้า และตามเทรนด์ตลาดได้ง่าย

6) โฟกัสแค่สิ่งที่จำเป็น

Lazada Application ช่วยคุณประหยัดแรงและเวลา และเหลือให้คุณไปโฟกัสกับสิ่งที่จำเป็นคือการขยายธุรกิจของคุณ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่า Shipping Fee การคืนสินค้า หรือภาษีที่น่าปวดหัว เพราะลาซาด้าคำนวณให้จบในคราวเดียว

7) รับคอมมิชชั่น 

รับค่าคอมมิชชั่น 10%-20% สำหรับสินค้าทั้งหมดที่ขายบน Lazada Marketplace และ LazMall นอกจากนี้ รับค่าคอมมิชชั่นโบนัสเพิ่มเติม 5% จากการขายแต่ละครั้งภายใต้ Referral Program

แนะนำเพื่อนที่ต้องการเริ่มขายบน Lazada Marketplace เมื่อพวกเขาทำการซื้อขายครั้งแรกเสร็จสิ้น คุณจะได้รับเครดิตมูลค่า $10 เพื่อใช้จ่ายในลาซาด้าและ LazMall

8) ไม่มีกำหนดสั่งซื้อขั้นต่ำ

ที่ลาซาด้าไม่มีข้อกำหนดการสั่งซื้อขั้นต่ำ ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นจากเล็ก ๆ หรือต้องการขยายธุรกิจ คุณก็จะไม่ถูกจำกัดด้วยกฎนี้

9) เข้าถึงตลาดโลกได้ง่ายกว่าเคย

ลาซาด้านำเสนอผลิตภัณฑ์มากกว่า 1 ล้านรายการใน 200 ประเทศและภูมิภาค คุณสามารถเข้าถึงผู้มีโอกาสเป็นลูกค้านับล้านทั่วโลก

10) ฟรีค่า Listing Fee

เพียงอัปโหลดรูปภาพและคำอธิบายผลิตภัณฑ์ของคุณ แล้วลงรายการไว้ที่ลาซาด้าได้เลย

11) ส่งไว ทันใจ

สินค้าของคุณจะถึงที่หมายอย่างรวดเร็วแม้ว่าจะจัดส่งไปต่างประเทศก็ตาม พัสดุของคุณจะใช้เวลาระหว่าง 3 - 7 วัน ขึ้นอยู่กับประเทศปลายทาง

12) ชำระเงินปลอดภัย

ธุรกรรมในระบบลาซาด้าทั้งหมดมีความปลอดภัย มีมาตรการรักษาความปลอดภัยหลายชั้นที่ปกป้องทั้งบัญชีของผู้ซื้อและผู้ขาย

อยากเริ่มขายของบนลาซาด้าต้องทำอย่างไร?

หากคุณต้องการเริ่มขายของบนลาซาด้า รอติดตามบทความต่อไปของเรา และเราจะแสดงให้เห็นมีขั้นตอนอย่างไร เข้าถึงรายละเอียดทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการตั้งร้านค้าบน Lazada Marketplace และ LazMall เช่น วิธีสมัคร Lazada Seller Center คุณจะได้รับความรู้ทั้งหมดที่จำเป็นในการตั้งค่าร้านค้าออนไลน์ของคุณเองให้ประสบความสำเร็จ

คำถามที่พบบ่อย

Lazada Seller Picks คืออะไร?

Lazada Seller Picks เป็นเครื่องมือส่งเสริมการขายฟรี ที่ช่วยให้ผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์สามารถปรับปรุงผลิตภัณฑ์ Best Seller บนหน้าผลลัพธ์ของ Seach Engine (SERPs) Lazada Seller Picks ช่วยเพิ่มยอดขายจากการค้นหาได้ถึง 60% เพิ่ม Click-through Rate สำหรับ SKU ที่เลือกโปรโมทใน Seller Picks และเพิ่มการมองเห็นสำหรับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของคุณเนื่องจากการจัดอันดับผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น

ขายของใน Lazada เสียค่าอะไรบ้าง?

ค่าธรรมเนียมในการขายของบน Lazada ปี 2564 นั้นโดยรวมฟรี แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเหล่านี้ที่จะต้องคำนวณเพิ่ม

1. คอมมิชชั่น: ขึ้นอยู่กับประเภทผลิตภัณฑ์ และ 4-6% สำหรับสินค้าบน LazMall

2. ค่าธรรมเนียมธุรกรรม: 3.21%/4.21% สำหรับทุกการสั่งซื้อ

3. Shipping fee: อ่านเพิ่มเติม

Lazada Seller มีกี่ประเภท?

บนแพลตฟอร์มนี้มีประเภทของผู้ขายแบ่งเป็น 3 ประเภท โดยเลือกได้ตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครเข้าเป็นผู้ค้า ดังนี้ 

1. LazMall Seller

2. Local Seller

3. LazGlobal Seller

ควรขายบน Lazada Marketplace หรือ LazMall ดี?

Lazada Marketplace เป็น e-marketplace แบบเปิดที่ผู้ค้าออนไลน์ทุกรายสามารถลงทะเบียนและเริ่มขายได้ ในขณะที่ LazMall สงวนไว้สำหรับแบรนด์ที่ผ่านเกณฑ์เฉพาะ พวกเขาจะมีคุณสมบัติสำหรับแคมเปญมากมายของลาซาด้าและเข้าถึงเครื่องมือส่งเสริมการขายเช่น LazMall Badge, Flagship Store และ Lazada Seller Picks เป็นต้น

LazMart คืออะไร?

LazMart เป็นร้านค้าย่อยภายใน LazMall ที่คุณสามารถซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันได้ สินค้าจาก LazMart จัดส่งโดยตรงจากคลังสินค้าและจัดการโดยลาซาด้าเอง คุณสามารถพิมพ์ "LazMart" ในแถบค้นหาเพื่อค้นหาสินค้าจากร้านค้านี้

E-Marketplace คืออะไร?

E-Marketplace หรือ Electronic Marketplace คือเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์ม eCommerce หรือ Social Media Commerce ที่รวมร้านค้ามากมายไว้ในที่เดียว คล้ายกับตลาดนัดหรือห้างสรรพสินค้า รูปแบบการให้บริการของ E-Marketplace เปิดให้ผู้สนใจเปิดร้านแล้ว ผู้ขายสามารถขายสินค้าผ่าน E-Marketplace มักจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น การชำระเงิน การสั่งซื้อสินค้า บริการจัดส่ง เครื่องมือทางการตลาด การส่งเสริมการขาย การวางแผนธุรกิจ และศูนย์ส่งเสริมธุรกิจ

อยากเริ่มขายของออนไลน์บนลาซาด้าแล้วหรือยัง?

หากคุณกำลังวางแผนที่จะสมัครขายของบนลาซาด้า แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนและต้องทำอย่างไร ทีมงาน Sphere Agency พร้อมดูแลคุณตลอดกระบวนการ ไม่ต้องกังวลเรื่องการสร้างบัญชี เดินเรื่องเอกสาร Social Media Marketing ไปจนถึงการขายสินค้าชิ้นแรกของคุณในที่สุด! เข้ามาดูรายละเอียดบริการ eCommerce Service และติดต่อเราวันนี้!