ในโลกดิจิทัลยุคใหม่ เว็บไซต์บริษัทกลายเป็นสิ่งจำเป็นอันดับต้น ๆ ที่จะกำหนดความสำเร็จของธุรกิจบนโลกออนไลน์ไม่แพ้หน้าเพจทางโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ทำหน้าที่เป็นหน้าร้านหรือเส้นทางที่เชื่อมต่อลูกค้าเข้ามาที่บริษัทของคุณ ช่วยให้ลูกค้าสามารถหาข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าหรือบริการที่คุณมีได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว และเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณทำงานด้านการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด SEO ก็กลายมาเป็นเครื่องมือสำคัญชิ้นหนึ่งเลยก็ว่าได้
จากผลการศึกษาในปี 2019 โดย Brightedge กว่า 53.3% ของยอดเข้าชมเว็บไซต์ทั้งหมดมาจาก Search Engines เช่น Google Bing Baidu หรือ Naver อีกทั้ง SEO ยังสามารถขับเคลื่อนยอดได้มากกว่า Social Media ถึง +1,000% ที่สำคัญคือยอดเข้าชมนี้สามารถได้มา 'ฟรี' ในระยะยาวนานหลายเดือนหรือกระทั่งหลายปี
มาดูตัวอย่างกันบ้าง สมมติว่าเราอยากโปรโมทบริการคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งของบริษัท ผลการค้นหาใน Keyword Research Tool โชว์ว่ามีผู้ใช้ประมาณ 1,000 คนต่อเดือนที่ค้นหาคีย์เวิร์ด 'Content Marketing' และจากสถิติที่ผ่านมา ลิงก์แรกที่โชว์ในผลการค้นหาของ Google มักจะมียอดคลิกเข้าเว็บประมาณ 20% ของผลการค้นหาทั้งหมด นั่นหมายความว่าเรามีโอกาสเพิ่มยอดผู้เข้าชมได้ 200 คนต่อเดือนหากสามารถทำให้ลิงก์ของเราไต่ขึ้นอันดับ 1 ได้ พอลองมาคำนวณคร่าว ๆ สมมติว่าคีย์เวิร์ดนี้มี CPC (Cost-per-click) ที่ $0.7/คลิก ยอดผู้เข้าชม 200 คนของเรามีค่าประมาณ $140 ต่อเดือน ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่เราประหยัดแทนการใช้ Search Ads ในแต่ละเดือนได้
ตลาดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในประเทศไทยเองก็เริ่มให้ความสำคัญกับ SEO มากขึ้นโดยเฉพาะในยุคที่อินเตอร์เน็ตเข้าถึงแทบทุกอุตสาหกรรม ฉะนั้นการทำความเข้าใจในเรื่องนี้ก็สามารถช่วยสร้างเม็ดเงินให้ธุรกิจของคุณได้มากทีเดียว
ในบทความ SEO ตอนแรกนี้ เราจะแนะนำหลักการพื้นฐานของ SEO ในแบบที่เข้าใจไม่ยาก ให้ธุรกิจคุณก้าวทันโลกคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งยุคดิจิทัล
SEO คืออะไร?
SEO หรือ Search Engine Optimization คือวิธีทางการตลาดดิจิทัลเพื่อเพิ่ม Traffic ตามกลุ่มเป้าหมายเข้ามายังหน้าเว็บไซต์ผ่าน Google ว่าง่าย ๆ คือการทำให้เว็บของคุณติดหน้าแรกและไต่อันดับในหน้าผลการค้นหา (บางที่เรียก SERP หรือ Search Engine Results Page)
บริษัทรับทำ SEO ใช้วิธีการสร้างคอนเทนต์คุณภาพสูงที่มีคีย์เวิร์ดเป้าหมาย ปรับเสริมเติมแต่งเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพ และการสร้าง Backlink ซึ่งจะขออธิบายในภายหลัง
ขั้นตอนแรกของการทำความเข้าใจ SEO คือต้องเข้าใจก่อนว่า Search Engines ต่าง ๆ นั้นทำงานอย่างไร
Search Engines ทำงานอย่างไร?
เวลาค้นหาอะไรบางอย่างใน Google จะมีอัลกอริทึมตัวหนึ่งที่เรียกว่า Crawler ซึ่งเป็นตัวที่จะช่วยสแกนจักรวาลเว็บไซต์กว่าหลายล้านเว็บบนอินเตอร์เน็ตแบบ Real-time เพื่อหาคอนเทนต์ที่มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราพยายามหามากที่สุด แล้วจึงสร้างลิสต์ของลิงก์ที่คิดว่าน่าจะดีที่สุดโดยอาศัยปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้
หนึ่ง ความเชื่อมโยง
Google มองหาเพจที่มีความเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดที่ค้นหามากที่สุด เช่น หากเราเสิร์ชคำว่า "SEO Agency Thailand" อัลกอริทึมอาจแสดงผลการค้นหาหลายล้านเว็บที่เกี่ยวข้อง จากนั้นมันอาจเทียบคีย์เวิร์ดที่เราพิมพ์กับคอนเทนต์ในเพจเพื่อหาผลที่ใกล้เคียงที่สุดโดยไม่หลุดไปประเด็นอื่น เช่น แทนที่จะแสดงบริษัทรับทำ SEO กลับแสดงหน้านักแสดงสาวชาวเกาหลีแทน เป็นต้น เราสามารถใช้เครื่องมือ Keyword Research Tool เพื่อหาชุดคำที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับแต่งคอนเทนต์ในเว็บไซต์ให้ใกล้เคียงที่สุดได้
จากนั้น Google จะเลือกผลการค้นหาจำนวนหนึ่งเพื่อแสดงเป็นอันดับต้น ๆ โดยอาศัยปัจจัยอื่น ๆ ดังนี้
สอง ความน่าเชื่อถือ
Google จัดอันดับเว็บไซต์โดยอิงความน่าเชื่อถือ ในส่วนนี้จะคำนวณจากจำนวนลิงก์จากเพจอื่นที่โยงมาหาเว็บไซต์นี้ ลิงก์เหล่านี้มีอีกชื่อว่า Backlinks
เพจที่มี Backlink คุณภาพ 100 ลิงก์มักจะได้คะแนนสูงกว่าเพจที่มี 10 ลิงก์ และจะส่งผลให้ Domain Level ของทั้งเว็บไซต์สูงขึ้นไปตาม ๆ กัน ฉะนั้นการสร้างลิงก์จึงเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญของการทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จ
Google ยังให้คะแนนคุณภาพของลิงก์ที่โยงมายังเพจนั้นด้วย เพราะฉะนั้นการสแปมเว็บเปล่าด้วยลิงก์ไปยังเพจที่ต้องการจึงไม่มีประโยชน์ในการทำ SEO เราจะกลับมาพูดถึงการสร้าง Backlink ในบทความต่อไป
สาม ประสบการณ์การใช้งาน
ถึงแม้ว่าเว็บไซต์ของคุณจะเต็มไปด้วยคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ รายละเอียดแน่นจนหลาย ๆ เว็บไซต์ลิงก์มาหาเว็บไซต์ของคุณ แต่ถ้าหากหากเว็บไซต์ของคุณไม่เป็นระเบียบ ยากต่อการใช้งาน หรือคอนเทนต์ก็มีแต่ศัพท์เฉพาะที่คนทั่วไปอ่านไปเข้าใจ เว็บไซต์ของคุณอาจได้คะแนนต่ำกว่าที่คิด
เปรียบเทียบกับอีกเว็บไซต์ที่คอนเทนต์อาจจะไม่ได้มีคุณภาพจัดเต็มและ Backlinks น้อยกว่า แต่ข้อความในเพจอ่านง่ายและมีการจัดวางเป็นระเบียบเรียบร้อย เพจนี้จะได้คะแนนสูงกว่าใน "Usefulness scale" โดยอิงจากประสบการณ์ผู้ใช้ เช่น การจัดวางข้อความ ความเร็วในการโหลด เป็นต้น เพราะ User Experience Rating ที่ดีจะช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Google ได้ง่ายขึ้น
อีกอย่างที่ควรระลึกไว้ คือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ใช้งานง่ายบนอุปกรณ์ที่พกพาง่ายก็มีส่วนช่วยอย่างมาก เช่น โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต ซึ่งส่วนนี้จะเป็นในเรื่องของ Technical SEO ที่เราจะพูดถึงในบทความหน้าอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
เริ่มทำ SEO อย่างไรให้ปัง?
เราได้เห็นกันแล้วว่าการทำ SEO Search Engine Optimization นั้นมีส่วนช่วยดึง Traffic มายังเว็บไซต์โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่มเพื่อทำโฆษณาแบบ Search Ads ซึ่งมักจะแพงและอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด
ฉะนั้นนี่คือทิปส์สำหรับคนที่อยากเริ่มทำ SEO เริ่มจากสร้างเว็บไซต์ที่ง่ายต่อการใช้งาน เขียนคอนเทนต์หรือบล็อกที่ตอบโจทย์เรียก Backlinks จากภายนอก วิธีเบื้องต้นเหล่านี้จะปูทางให้กับขั้นต่อไปของการทำ Search Engine Marketing ของธุรกิจคุณ
บทความนี้ได้รู้แล้วว่า SEO คืออะไร ในบทความต่อไปเราจะมาแนะนำเบื้องต้นว่าการทำ SEO ที่ดีต้องทำอย่างไร อ่านต่อได้เลยที่ วิธีทำ SEO ฉบับมือใหม่ ปูพื้นฐานมั่นใจให้เว็บไซต์ติดอันดับ
คำถามที่พบบ่อย
SEO Tools ทำอะไรได้บ้าง?
SEO Tools ต่าง ๆ ล้วนให้ข้อมูลและอินไซต์อันเป็นประโยชน์เกี่ยวกับประสิทธิภาพของเว็บไซต์ ช่วยสอดส่องหาช่องทางในการพัฒนาและชี้ช่องโหว่ของเว็บไซต์เพื่อให้สามารถไต่อันดับบน Search Engine ได้ง่ายขึ้น
ฉันสามารถทำ SEO ด้วยตัวเองได้ไหม?
คำตอบคือได้ คุณสามารถทำการตลาด SEO ได้ด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับการตลาดออนไลน์รูปแบบอื่น ๆ ทุกคนสามารถเรียนรู้วิธีการทำ SEO สำหรับธุรกิจของตัวเองหากมีการค้นคว้าหาความรู้และการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ
การทำ SEO ต้องเสียเงินไหม?
การทำให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Google นั้นทำได้ฟรี และไม่มีใครสามารถจ่ายเงินเพื่ออันดับที่ดีขึ้นได้ เพราะ Google ตั้งมั่นที่จะทำให้เนื้อหาการค้นหามีประโยชน์และน่าเชื่อถือที่สุดสำหรับผู้ใช้
SEO Marketing เรียนรู้ยากไหม?
ตัวการทำ SEO เองอาจง่ายกว่าที่คุณคิด แต่ก็ไม่ควรประมาทเรื่องเวลาที่ต้องเสียและความพยายามที่ต้องใช้เพื่อที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับ อย่าคาดหวังว่าจะไต่อันดับในระดับชาติหากคุณใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีต่อวัน การตลาดดิจิทัลต้องการการวิเคราะห์ประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ SEO
Search Engine 3 ประเภทมีอะไรบ้าง?
Search Engine ในปัจจุบันแบ่งออกเป็นสามประเภทตามวิธีการทำงาน ได้แก่:
Crawler based search engines.
Human powered directories.
Hybrid search engines.
Other special search engines.
Search Engine ยอดนิยม 5 อันดับมีเจ้าไหนบ้าง?
Search Engine 5 อันดับแรกที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลกได้แก่ Google, Bing, Yahoo, Baidu, และ Yandex อ้างอิงจาก Netmarketshare, Statista และ StatCounter
ต้องการตัวช่วยด้าน SEO หรือเปล่า?
หากแบรนด์ของคุณต้องการความช่วยเหลือในการเริ่มทำ SEO Marketing ทีมงานมืออาชีพที่ Sphere พร้อมให้คำปรึกษาในการปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณให้ไต่อันดับท่ามกลางการแข่งขันในตลาด Search Marketing ที่ดุเดือด อ่านรายละเอียดบริการ SEO ของเรา และ ติดต่อมาได้เลย