จากบทความก่อนหน้านี้ ที่เราได้เคยเขียนถึง LINE Official Account หนึ่งในตัวช่วยของคนทำธุรกิจออนไลน์ไปแล้ว ในวันนี้เราก็จะมาพูดถึงตัวช่วยในการที่จะทำให้ LINE OA ของเราปังขึ้นไปอีกขั้น จากสถิติของ LINE Thailand ระบุไว้ว่าการทำโฆษณาผ่าน LINE Ads Platform นั้นช่วยให้ผู้ใช้ LINE กว่า 47 ล้านราย รู้จักกับแบรนด์ของคุณ และยังระบุไว้อีกด้วยว่า โฆษณาเหล่านี้สามารถเข้าถึงผู้คนได้มากถึง 2,500 ล้านครั้งต่อเดือนเลยทีเดียว ซึ่งวันนี้เราจะมาช่วยกันทำความเข้าใจกับอีกหนึ่งในจักรวาลธุรกิจของ LINE กัน
LINE Ads Platform คือ ?
LINE Ads Platform (LAP) คือ แพลตฟอร์มการทำการโฆษณา บน LINE แอปพลิเคชันแชทชื่อดังในเมืองไทย โดยการที่จะทำการโฆษณาผ่าน LINE Ads Platform นั้นเราสามารถจะทำการโฆษณาด้วยตัวเองก็ได้หรือจะจ้าง Agency เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและยังสามารถใช้ฟีเจอร์เฉพาะที่มีแค่เอเจนซี่เท่านั้นที่สามารถใช้งานได้อีกด้วย
ซึ่งการโฆษณาผ่านทาง LINE Ads Platform นั้น จะเป็นการทำโฆษณาด้วยรูปภาพ วิดีโอ หรือ Carousel เท่านั้น โดยจะแสดงผลบนหน้าต่าง ๆ ของแอปพลิเคชัน LINE และยังมีฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับการทำโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์และสามารถใช้เพิ่มยอด Conversion ได้อีกด้วย
โดยตัวโฆษณาของเราสามารถไปแสดงผลได้ในหลากหลายจุดบนแอปพลิเคชันของทาง LINE ไม่ว่าจะเป็น LINE Chat, LINE Timeline, LINE Today, LINE TV และ LINE Wallet ซึ่งในแต่ละหน้าก็จะมีจุดที่แสดงโฆษณาที่แตกต่างกันไปและมีรูปแบบการโฆษณาที่ต่างกัน และสามารถใส่ปุ่ม Call to Action เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มเพื่อน การรับชมข้อมูลเพิ่มเติม หรือการซื้อสินค้า เพื่อให้เราสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของการทำโฆษณาของเราได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
หนึ่งในการโฆษณาที่เป็นฟีเจอร์เฉพาะสำหรับ LINE แพลตฟอร์มเท่านั้น คือ โฆษณาเพิ่มเพื่อน
การโฆษณาเพิ่มเพื่อนเป็นการทำโฆษณาบน LINE แพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มยอดการติดตามให้แก่บัญชี LINE Official Account ของแบรนด์ โดยใช้ระบบการประมูลแบบกำหนดราคาเองได้ ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยให้เราสามารถเพิ่มฐานลูกค้า ปิดการขายได้ไว และเพิ่มยอดขายได้อย่างรวดเร็ว และค่าใช้จ่ายต่อ 1 แคมเปญยังเริ่มต้นเพียงแค่ 1,000 บาท โดยจะคิดเงินเมื่อมีคนกดเพิ่มเพื่อนมาด้วยโฆษณาตัวเพิ่มเพื่อนเท่านั้น
ข้อดีของ LINE Ads Platform
เลือกวัตถุประสงค์ในการโฆษณา
เราสามารถเลือกวัตถุประสงค์ในการทำโฆษณาผ่าน LINE ได้ว่าเราต้องการทำโฆษณาตัวนี้เพื่ออะไร จะช่วยให้การทำการโฆษณาของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยทาง LINE ได้แบ่งไว้เป็น 4 ระดับ ดังนี้
1. การรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness)
- การเข้าถึงและความถี่ (Reach and Frequency)
เราสามารถกำหนดจำนวนคนและความถี่ที่แต่ละคนจะมาเห็นโฆษณาของเราได้ ในการกำหนดการเข้าถึงและความถี่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อโฆษณาผ่านทาง Agency เท่านั้น
- การเข้าชมเว็บไซต์ (Website Visit)
เพื่อให้คนเข้าไปชมเว็บไซต์ ไปดูข้อมูลของแบรนด์ สินค้าและบริการ เป็นการเพิ่มยอด Traffic ให้กับเว็บไซต์ของเรานั่นเอง
- การดูวิดีโอ (Video Views)
เพื่อเพิ่มยอดการดูวิดีโอโฆษณาของเราให้มากขึ้น ซึ่งเราสามารถใส่ปุ่ม Call to Action เพื่อที่หลังจากคนดูวิดีโอของเราจบก็มีโอกาสที่จะกดปุ่มมากขึ้น
2. เพิ่มฐานลูกค้า (Increase customer base)
- เพิ่มเพื่อน (Gain Friend)
ใช้ในการดึงดูดให้คนที่สนใจในแบรนด์ สินค้าและบริการของเรา เข้ามากดติดตาม LINE Official Account เพื่อเพิ่มยอดผู้ติดตามให้แก่บัญชีของเรา และส่งข่าวสาร โปรโมชันให้กับกลุ่มผู้ติดตามบัญชีของเรา
- ติดตั้งแอปพลิเคชัน (App Install)
ใช้เพื่อดึงดูดให้คนที่เห็นโฆษณาและสนใจ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพื่อมาทดลองใช้งาน และเพิ่มยอดดาวน์โหลดให้กับแอปพลิเคชันของเราอีกด้วย
3. เพิ่มยอดขาย และ กระตุ้นให้เกิดการใช้งาน (Increase sales)
- เว็บไซต์คอนเวอร์ชัน (Website Conversion)
ช่วยให้คนที่สนใจในสินค้าและบริการของเรา เข้าไปซื้อสินค้าและบริการของเราบนเว็บไซต์ ทำให้เราสามารถเก็บข้อมูลต่าง ๆ ของลูกค้าคนนั้นได้เพื่อนำไปใช้ทำการตลาดหรือการโฆษณาแบบอื่นต่อไปในอนาคต
- การมีส่วนร่วมในแอปพลิเคชัน (App Engagement)
กระตุ้นให้คนที่มีแอปพลิเคชันอยู่แล้วเข้ามามีส่วนร่วม เข้ามาใช้งานแอปพลิเคชันของเราให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การสร้างบัญชี การเล่นเกม หรือการซื้อสินค้าในแอปพลิเคชัน ฯลฯ
4. รักษาฐานลูกค้า (Customer Retention)
- การจำหน่ายสินค้าแบบไดนามิก (Dynamic Product Sales)
ใช้ในการรักษาลูกค้าเดิมเอาไว้ โดยการแสดงสินค้าแบบเฉพาะบุคคลหรือ Personalization ซึ่งเป็นการเลือกแสดงสินค้าตามข้อมูลที่แบรนด์และ LINE มีให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยการใช้วัตถุประสงค์นี้จำเป็นที่จะต้องทำการซื้อโฆษณาผ่านทาง Agency เท่านั้น
กำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ละเอียด
ความละเอียดในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายของเราใน LINE Ads Platform สามารถกำหนดได้ละเอียดถึง 5 หัวข้อ เริ่มตั้งแต่ การกำหนด เพศ อายุ พื้นที่ ระบบปฏิบัติการ และความสนใจของลูกค้า ซึ่งในแต่ละหัวข้อเราสามารถกำหนดได้ละเอียดมาก ๆ เช่น หัวข้อพื้นที่เราสามารถกำหนดลงไปได้ถึงระดับ เขต กันเลยทีเดียว ทำให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าจริง ๆ ของเราแบรนด์เราได้ถูกต้องขึ้น
และเรายังสามารถสร้าง Custom Audience ของเราเอง โดยการนำข้อมูลจาก LINE Official Account เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ของเราในการนำข้อมูลมาสร้างเป็น Lookalike Audience เพื่อให้ LINE Ads Platform สามารถนำไปใช้ในการเลือกกลุ่มเป้าหมายที่มีความคล้ายคลึงกับกลุ่มเป้าหมายเดิม หรือที่เรียกว่า Lookalike Audience เพื่อช่วยให้เราสามารถขยายฐานลูกค้าออกไปได้
รวมไปถึงการเก็บข้อมูลลูกค้ามาและนำมาจัดแบ่งออกเป็นกลุ่ม ๆ เพื่อการนำไปใช้ในการ Re-Targeting ส่งโฆษณาออกไปยังผู้ที่มีแนวโน้มในการที่จะเลือกซื้อสินค้าและบริการของเราเพื่อตอกย้ำให้เกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าของเรา
จากการเก็บข้อมูลของทาง LINE ที่มีระเบียบ แยกหมวดหมู่ไว้อย่างดีและสามารถนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลาย อย่างเช่น การ Re-Targeting กลุ่มคนที่ บล็อกบัญชีของแบรนด์เรา เราสามารถนำมาใช้ในการทำโฆษณาเพื่อให้คนเหล่านั้นปลดบล็อกและกลับมาติดตามบัญชีของเราได้
ซึ่งการ Re-Targeting ทำโฆษณาไปยังคนที่บล็อกบัญชีของเรา ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่มีแค่เฉพาะที่ LINE เท่านั้นที่สามารถยิงโฆษณาไปยังคนที่บล็อกเราแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ห้ามลืมก็คือ คนเหล่านี้มักจะเคยติดตามแบรนด์มาอยู่ก่อนหรือแม้กระทั่งอาจจะเคยซื้อสินค้ากับทางแบรนด์ด้วยซ้ำ การที่เราทำโฆษณาแบบเดิมไปอาจจะทำให้ได้ผลซ้ำแบบเดิม เราจึงควรที่จะต้องมีการทำสิ่งจูงใจใหม่ให้กับคนเหล่านี้ด้วย
มีรูปแบบโฆษณาให้เลือกซื้อหลายแบบ
โดยเราสามารถเลือกได้ว่าเราจะซื้อโฆษณาจาก LINE ในรูปแบบใด ให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของการทำการโฆษณาในครั้งนี้
1. Cost Per 1,000 Impressions (CPM) การเห็นโฆษณา
เหมาะสมกับแคมเปญโฆษณาที่ต้องการสร้างการรับรู้ หรือต้องการให้คนจดจำแบรนด์ได้ โดยจะคิดราคาตามจำนวนการมองเห็น ทุก ๆ 1,000 การมองเห็น
2. Cost Per Click (CPC) การคลิก
เหมาะสำหรับแคมเปญโฆษณาที่ต้องการยอด Conversion โดยจะเน้นไปที่การกดคลิกต่าง ๆ ทั้งการเข้าชมเว็บไซต์ การดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
3. Cost Per Friend (CPF) การเพิ่มเพื่อน
เป็นรูปแบบเฉพาะที่มีแค่ในกลุ่มแพลตฟอร์มของ LINE เท่านั้น เหมาะสำหรับแบรนด์ที่มีความต้องการในการเพิ่มยอดผู้ติดตามให้กับบัญชีของแบรนด์ เพื่อนำไปใช้ในการทำการส่งข่าวสารหรือโปรโมชั่นต่าง ๆ ได้ในอนาคต
ขนาดของรูปภาพและวิดีโออัปเดตล่าสุด
จากด้านบนที่เราได้พูดกันไปว่ามีรูปแบบของโฆษณาได้แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ รูปภาพ วิดีโอ และ Carousel ซึ่งในแต่ละรูปแบบก็จะสามารถนำไปทำโฆษณาได้แตกต่างกันตามวัตถุประสงค์ทั้ง 8 ข้อ โดยแยกได้ดังนี้
1. รูปภาพ
- การเข้าถึงและความถี่
- การเข้าชมเว็บไซต์
- เพิ่มเพื่อน
- ติดตั้งแอปพลิเคชัน
- เว็บไซต์คอนเวอร์ชัน
- การมีส่วนร่วมในแอปพลิเคชัน
- การจำหน่ายสินค้าแบบไดนามิก
แนะนำเป็นรูปแบบ 1:1 ขนาด 1080*1080 px เป็นนามสกุล JPEG หรือ PNG ขนาดของไฟล์ไม่เกิน 5 MB ใส่ตัวอักษรที่ Title ได้สูงสุด 20 ตัวอักษร และที่ Description ได้สูงสุดที่ 75 ตัวอักษร
ซึ่งรูปแบบรูปภาพจะไปสามารถแสดงบน LINE ได้ทุกแพลตฟอร์ม
2. วิดีโอ
- การเข้าถึงและความถี่
- การเข้าชมเว็บไซต์
- การดูวิดีโอ
- ติดตั้งแอปพลิเคชัน
- เว็บไซต์คอนเวอร์ชัน
- การมีส่วนร่วมในแอปพลิเคชัน
แนะนำเป็นรูปแบบ 1:1, 16:9 และ 9:16 ที่ขนาด 1080*1080, 1920*1080 และ 1080*1920 ตามลำดับ ขนาดของไฟล์ไม่เกิน 100MB และมีความยาวตั้งแต่ 5 วินาทีไปจนถึง 120 วินาที ใส่ตัวอักษรที่ Title ได้สูงสุด 20 ตัวอักษร และที่ Description ได้สูงสุดที่ 75 ตัวอักษร
และรูปแบบการโฆษณาแบบวิดีโอจะสามารถไปแสดงผลได้ที่ LINE Timeline, LINE Today และ LINE Wallet เท่านั้น
3. Carousel
- การเข้าถึงและความถี่
- การเข้าชมเว็บไซต์
- ติดตั้งแอปพลิเคชัน
- เว็บไซต์คอนเวอร์ชัน
- การมีส่วนร่วมในแอปพลิเคชัน
รูปแบบของ Carousel จะมีความคล้ายกันกับแบบรูปภาพปกติมาก เป็นรูปแบบ 1:1 ขนาด 1080*1080 px เป็นนามสกุล JPEG และ PNG ขนาดของไฟล์ไม่เกิน 5 MB ต่อรูป และใส่ตัวอักษรใน Title ได้สูงสุด 20 ตัวอักษร เหมือนกันกับแบบรูปภาพปกติ จะมีจุดที่แตกต่างกันคือ รูปแบบนี้จะสามารถลงรูปได้สูงสุด 10 รูป สามารถใส่ตัวอักษรที่ Description สูงสุดที่ 40 ตัวอักษร และจะไปแสดงได้ที่ LINE Timeline และ LINE Today แค่ 2 แพลตฟอร์มเท่านั้น
การทำโฆษณาบน LINE Ads Platform ยังมีวิธีการต่าง ๆ อีกมากมายที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจของเรา และเนื่องจากความละเอียดในการระบุส่วนต่าง ๆ ของ LINE ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง กลุ่มเป้าหมาย วัตถุประสงค์ และรูปแบบการโฆษณา ที่ทำให้เราสามารถทำโฆษณาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
คำถามที่พบบ่อย
LINE เป็นที่นิยมหรือไม่?
LINE ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน ไทย และอินโดนีเซีย ปัจจุบันได้ชื่อว่าเป็นซุปเปอร์แอพที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 165 ล้านคนต่อเดือนทั่วโลก Fun Fact: LINE เริ่มต้นจากการเป็นแอปรับมือภัยพิบัติในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหวและสึนามิที่โทโฮคุในปี 2554
ฉันจะสามารถใช้ Line for Business ได้ไหม?
Line For Business พร้อมให้บริการแก่ทุกคน เป็นช่องทางที่ยอดเยี่ยมในการสื่อสารกับลูกค้า สายสัมพันธ์ทางธุรกิจ แฟนคลับ และอีกมากมาย! คุณสามารถส่งข้อความผ่านแอพถึงเพื่อนบน LINE และ LINE@
LINE Official Account คืออะไร?
LINE Official Accounts ให้คุณสร้างบัญชีธุรกิจและเชื่อมต่อกับลูกค้าและแฟนๆ ของคุณ คุณสามารถใช้ข้อมูลที่ประเมินจากแนวโน้มของผู้ใช้บน LINE เพื่อส่งบรอดแคสต์แบบเลือกเป้าหมาย รวมทั้งเชื่อมโยงข้อมูลของคุณกับระบบภายนอกได้ด้วย
LINE for Business ฟรีไหม?
บัญชี LINE Official Accounts ทั้งหมดสามารถเปิดบัญชีและใช้งานได้ฟรี แต่แผนบริการฟรีจะมีการจำกัดจำนวนข้อความที่ส่งได้ โดย LINE มีแผนการชำระเงินเพิ่มเติมเพื่อให้เหมาะกับความต้องการทางธุรกิจ
ทำไม LINE ถึงได้รับความนิยม?
LINE มีชื่อเสียงในด้านบริการที่มีคุณภาพและตัวการ์ตูนมาสคอตสุดน่ารัก ด้วยความนิยมนี้ ทำให้ LINE กลายเป็นแอพที่ทำรายได้สูงสุดในเอเชีย LINE เป็นมากกว่าบริการ แต่เป็นแบรนด์ที่ทรงพลัง
LINE ขายข้อมูลให้บุคคลที่สามหรือไม่?
ตามหลักการพื้นฐานที่ระบุ LINE จะปฏิบัติตามนโยบายและจะไม่รวบรวมข้อมูล/ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการให้บริการที่เหมาะสม และจะไม่ทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดหรือขายข้อมูลผู้ใช้
Line ถูกแบนในประเทศจีนหรือไม่?
แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตะวันตกส่วนใหญ่ถูกแบนในประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Instagram, Snapchat, YouTube และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ประเทศจีนยังบล็อกแอพส่งข้อความโต้ตอบแบบทันทีอื่น ๆ เช่น FB Messenger, Line, Telegram หรือ Viber ข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียวคือแอปสัญชาติจีนอย่าง WeChat หรือ Weixin
ต้องการตัวช่วยในการทำโฆษณาผ่าน LINE Ads Platform หรือเปล่า?
หากคุณยังไม่ได้เริ่มทำการโฆษณาด้วย LINE Ads Platform ทีมงาน Sphere Agency พร้อมช่วยคุณในการทำการตลาดและโฆษณา เพื่อช่วยให้บัญชีและร้านค้าบน LINE ของคุณประสบความสำเร็จ ดูรายละเอียด บริการ Digital Marketing Services และ ติดต่อเรา มาได้เลย!
